This is the Trace Id: 1eacca789d55f74d81d01be22a85cb38
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
Dynamics 365

ระบบ CRM คืออะไร

เรียนรู้ว่าเหตุใดระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) จึงจำเป็นสำหรับการยกระดับความสัมพันธ์และผลักดันยอดขาย และสำรวจฟีเจอร์สำคัญ ประเภท และข้อดีของระบบ CRM
ผู้หญิงสวมแว่นและแจ็กเก็ตสีแทนกำลังใช้แล็ปท็อป

ระบบ CRM คืออะไร

ระบบ CRM คือโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมซึ่งรวมศูนย์ เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงการโต้ตอบกับลูกค้าในด้านการขาย การตลาด และการบริการ ซึ่งใช้ AI, ระบบคลาวด์ และเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันข้ามแผนก องค์กรทุกประเภทต่างใช้ระบบ CRM ในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ผลักดันยอดขายและความสามารถในการทำกำไร และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

ประเด็นสำคัญ

  • ระบบ CRM คือแพลตฟอร์มรวมศูนย์สำหรับการจัดเก็บ การจัดการ และการวิเคราะห์ข้อมูลและการโต้ตอบตลอดการเดินทางของลูกค้า
  • ระบบ CRM ใช้ AI และเทคโนโลยีระบบคลาวด์ในการสร้างข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและเพิ่มรายได้
  • โดยทั่วไปแล้ว ระบบ CRM จะประกอบไปด้วยการจัดการการติดต่อ การขายอัตโนมัติ การตลาดอัตโนมัติ การจัดการบริการลูกค้า การวิเคราะห์และการรายงาน เครื่องมือ AI สร้างสรรค์ และความสามารถในการผสานรวมกับระบบต่างๆ
  • ระบบ CRM สามประเภทหลักๆ ได้แก่ เชิงปฏิบัติการ เชิงวิเคราะห์ และเชิงทำงานร่วมกัน 
  • เมื่อเลือกใช้ระบบ CRM ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความสามารถในการปรับขนาด ความง่ายในการใช้งาน และทรัพยากรการฝึกอบรม
  • ความท้าทายที่พบได้บ่อยสี่ประการในการใช้ระบบ CRM ใหม่นั้นประกอบด้วยการโยกย้ายข้อมูล ความเข้ากันได้กับระบบที่มีอยู่ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการเริ่มนำไปใช้โดยผู้ใช้
  • องค์กรในโลกแห่งความจริงในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้นำระบบ CRM ไปใช้สำเร็จแล้ว
  • โดยระบบ CRM จะยังคงพัฒนาต่อไปด้วยความก้าวหน้าในด้าน AI, อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT), ความเป็นจริงเสริม (AR), อุปกรณ์เคลื่อนที่ และเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมาย 

ระบบ CRM ทำอะไรได้บ้าง

ระบบ CRM ถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล ระบบ CRM ช่วยให้ทีมการตลาด การขาย และการบริการรับรองได้ว่าทุกการโต้ตอบกับลูกค้านั้นจะรวดเร็ว สะดวก และเป็นส่วนตัว โดยสนับสนุนแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบครบวงจรในระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

ระบบ CRM ทำงานโดยรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากช่องทางต่างๆ ขององค์กร ได้แก่ เว็บไซต์ ศูนย์ติดต่อ และเครือข่ายสังคม พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ในมุมมองแบบองค์รวม และใช้ AI และเครื่องมือการวิเคราะห์ขั้นสูงอื่นๆ เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม ความต้องการ และข้อกังวลของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้เพื่อกุมความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในหลายๆ วิธี ได้แก่:
 
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้น
  • ปรับปรุงวงจรการขายให้ง่ายขึ้น
  • สร้างแคมเปญการตลาดเฉพาะกลุ่ม 
  • แก้ปัญหาของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
บางคนเข้าใจผิดว่าระบบ CRM นั้นมีแต่ฟังก์ชันจัดการการขายและถูกออกแบบมาสำหรับใช้โดยองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น ทว่าโซลูชันซอฟต์แวร์ CRM นั้นมีฟังก์ชันต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตลาดอัตโนมัติและการบริการลูกค้า และองค์กรทุกขนาดสามารถใช้ฟังก์ชันเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อกุมความได้เปรียบในการแข่งขัน 

ฟีเจอร์และฟังก์ชันสำคัญของระบบ CRM

โดยทั่วไปแล้ว ระบบ CRM จะมี เครื่องมือ CRM  สำหรับจัดการกับความสัมพันธ์ในวงจรลูกค้าดังต่อไปนี้:
 
  • การจัดการการติดต่อ: สนับสนุนการสร้างโปรไฟล์ลูกค้าและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ครอบคลุมโดยใช้ฐานข้อมูลกลางที่เก็บและจัดระเบียบข้อมูลประชากรและรายละเอียดการติดต่อของลูกค้าเอาไว้ ได้แก่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ประวัติการสื่อสาร และการมีส่วนร่วมในโซเชียลมีเดีย

  • การขายอัตโนมัติ: ช่วยให้ทีมขายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีเป้าหมาย โดยเพิ่มประสิทธิภาพในกิจกรรมการขายต่างๆ ที่สำคัญ รวมถึงการสร้างและการให้คะแนนลูกค้าเป้าหมาย การติดตามโอกาสในการขาย การจัดการขั้นตอนการขายและคำสั่งซื้อ และการคาดการณ์ยอดขาย
     
  • การตลาดอัตโนมัติ: เพิ่มผลตอบแทนการลงทุนจากแคมเปญโดยใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้า ปรับเปลี่ยนข้อความให้เหมาะสมที่จุดสัมผัสต่างๆ ติดตามการตอบสนอง และวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงาน
     
  • การบริการและการสนับสนุนลูกค้า: ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าโดยจัดเตรียมแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการตั๋วการสนับสนุน การแก้ไขคิวรีและคำร้องเรียน และการติดตามตรวจสอบความพึงพอใจอย่างมีประสิทธิภาพ
     
  • การวิเคราะห์และการรายงาน: ช่วยให้ทีมตัดสินใจได้ดีขึ้นและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมด้วยเครื่องมือในตัวที่คาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้า คาดการณ์ยอดขาย ตรวจสอบความคิดเห็นของลูกค้า และสร้างข้อมูลเชิงลึกในการแข่งขันอื่นๆ บนแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย
     
  • AI สร้างสรรค์ ช่วยให้พนักงานทำงานได้มากขึ้นและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าด้วยแชทบอทและเครื่องมือภาษาธรรมชาติอื่นๆ ที่จะเพิ่มผลิตภาพและส่งเสริมนวัตกรรม
     
  • ความสามารถในการผสานรวมกับระบบอื่น: ส่งเสริมการไหลของข้อมูลที่ราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมโดยสนับสนุนการผสานรวม ทั้งโดยตรงหรือผ่าน API หรือตัวเชื่อมต่อ กับซอฟต์แวร์ทางธุรกิจอื่นๆ เช่น การจัดการทรัพยากรขององค์กร (ERP), การดำเนินงานของศูนย์บริการทางโทรศัพท์ และการตลาดทางอีเมล

ระบบ CRM ทั้งสามประเภท

ระบบ CRM แบ่งออกเป็นสามประเภทหลักๆ ด้วยกัน เพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจเฉพาะทางต่างๆ:
 
  1. ระบบ CRM เชิงปฏิบัติการ มุ่งเน้นไปที่กระบวนการอัตโนมัติและปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรงสำหรับการขาย การตลาด และการบริการ ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการจัดการการโต้ตอบกับลูกค้าและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
     
  2. ระบบ CRM เชิงวิเคราะห์ เชี่ยวชาญในการสร้างข้อมูลเชิงลึก รวมถึงระบุรูปแบบและแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม ความต้องการ และการซื้อของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ทีมการขาย การตลาด และการบริการเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น
     
  3. ระบบ CRM เชิงทำงานร่วมกัน ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารและการแชร์ข้อมูลทั่วฝ่ายการขาย การตลาด การบริการ และแผนกอื่นๆ เพื่อช่วยรับรองว่าประสบการณ์ของลูกค้าจะสอดคล้องกันในทุกจุดสัมผัส 

ประโยชน์ของการใช้ระบบ CRM

หากนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ CRM สามารถช่วยองค์กรได้ดังนี้: 
 
  • เสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า: ความสามารถในการรับรู้ข้อมูลของลูกค้าในทุกแง่มุมช่วยให้ทีม CRM สามารถใช้ข้อมูลเกี่ยวกับความชอบ ความต้องการ และการซื้อของลูกค้านี้เพื่อปรับแต่งการโต้ตอบให้เหมาะสมได้ และยังสามารถติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การแชทสด การโทร อีเมล หรือโซเชียลมีเดีย ซึ่งล้วนช่วยส่งเสริมความภักดีของลูกค้า
  • กระตุ้นยอดขายและรายได้: การใช้เครื่องมือการขายอัตโนมัติเพื่อลดงานที่ต้องทำซ้ำๆ ช่วยให้ทีมขายสามารถมุ่งเน้นไปที่โอกาสที่มีมูลค่าสูงและปิดการขายได้เร็วขึ้น ทีมการตลาดยังสามารถผลักดันการเติบโตผ่านระบบอัตโนมัติของแคมเปญอีเมล โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และงานอื่นๆ ที่แต่เดิมต้องใช้เวลานาน
  • ปรับปรุงการจัดการข้อมูล: ที่เก็บข้อมูลส่วนกลางสำหรับจัดเก็บและจัดการข้อมูลลูกค้าช่วยให้องค์กรต่างๆ มั่นใจได้ว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างง่ายดาย และข้อมูลเป็นปัจจุบันและถูกต้องแม่นยำ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มรวมสำหรับการแชร์ข้อมูลนี้ยังช่วยยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างทีมและแผนกต่างๆ อีกด้วย
  • ขับเคลื่อนการตัดสินใจที่ดีขึ้น AI และการวิเคราะห์ขั้นสูงอื่นๆ จะเปลี่ยนข้อมูลดิบเป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง ซึ่งช่วยให้ทีมต่างๆ สามารถระบุโอกาส บรรเทาความเสี่ยง และทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: ระบบอัตโนมัติของงานที่ต้องทำเป็นกิจวัตร เช่น การป้อนข้อมูล การติดตามผล และการรายงาน จะช่วยประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ได้ 

แนวทางปฏิบัติสำหรับการพิจารณาเลือกระบบ CRM

ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติเหล่านี้ในการพิจารณาเลือกระบบ CRM ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ:
 
  1. ระบุความต้องการทางธุรกิจของคุณอย่างรอบคอบ ระบุความต้องการพื้นฐานของคุณโดยประเมินปัญหาที่คุณต้องการแก้ไขและเป้าหมายที่คุณต้องการบรรลุด้วยระบบ CRM
     
  2. ประเมินฟีเจอร์ของระบบ CRM เปรียบเทียบระบบ CRM ตามความสามารถที่สอดคล้องกับข้อกำหนดสำคัญของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการขาย การแบ่งกลุ่มลูกค้า หรือการรายงานและการวิเคราะห์
     
  3. พิจารณาถึงความสามารถในการปรับขนาดและการผสานรวม พิจารณาเลือกระบบ CRM ที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณได้ รวมถึงผสานรวมเข้ากับเครื่องมือที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น เช่น ERP และโซลูชันการตลาด เพื่อหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกข้อมูลและเวิร์กโฟลว์ที่ไม่ต่อเนื่องกัน 
     
  4. ให้ความสำคัญกับความง่ายในการใช้งานและการฝึกอบรม ขับเคลื่อนการเริ่มไปใช้โดยผู้ใช้โดยปรับใช้ระบบ CRM ที่มีส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายและทรัพยากรการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ

ความท้าทายในการนำระบบ CRM ไปใช้ทั้งสี่ประการ

ระบบ CRM มีข้อดีมากมาย แต่ปัญหาอาจเกิดขึ้นระหว่างการนำไปใช้งาน ต่อไปนี้คือความท้าทายทั่วไปสี่ประการและวิธีเอาชนะความท้าทายเหล่านี้
 
  1. ปัญหาการโยกย้ายข้อมูล
    ความท้าทาย: การถ่ายโอนข้อมูลไปยังระบบ CRM ใหม่นั้นอาจซับซ้อนและใช้เวลานาน
    การแก้ไขปัญหา: วางแผนอย่างละเอียดและทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยให้แน่ใจว่ากระบวนการโยกย้ายข้อมูลจะราบรื่น และให้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเป็นประจำด้วย
     
  2. ปัญหาความเข้ากันได้
    ความท้าทาย: ความไม่เข้ากันระหว่างระบบ CRM ใหม่กับระบบที่มีอยู่อาจส่งผลให้เกิดความล่าช้าและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้ 
    การแก้ไขปัญหา: กำหนดขอบเขตโครงการอย่างชัดเจนและทดสอบการผสานรวมอย่างละเอียดก่อนที่จะใช้งานจริง ประสานงานกับผู้จัดจำหน่าย CRM, ทีมเทคโนโลยีสารสนเทศ และแผนกที่นำไปใช้งานอย่างใกล้ชิด เพื่อระบุและแก้ไขข้อขัดแย้งที่มี
     
  3. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
    ความท้าทาย: การปกป้องข้อมูลลูกค้าที่ละเอียดอ่อนและการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลมีความสำคัญมากที่สุดในการปรับใช้งานระบบ CRM
    การแก้ไขปัญหา: พิจารณาเลือกระบบ CRM ที่สอดคล้องกับข้อบังคับด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่บังคับใช้ทั้งหมด และมีการเข้ารหัสลับอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดการควบคุมสิทธิ์เข้าถึงที่เข้มงวดและฝึกอบรมพนักงานในส่วนแนวทางปฏิบัติสำหรับการปกป้องข้อมูล
     
  4. การเริ่มนำไปใช้และการฝึกอบรมผู้ใช้
    ความท้าทาย: พนักงานมักจะต้องการใช้เครื่องมือที่ตนคุ้นเคยต่อไป ซึ่งอาจกังวลว่าระบบ CRM ใหม่นี้จะทำให้ตนมีภาระงานมากขึ้น
    การแก้ไขปัญหา: ช่วยให้พนักงานคุ้นเคยกับระบบ CRM ใหม่ โดยให้พนักงานมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการปรับใช้งานด้วยและจัดเตรียมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติและการสนับสนุน และช่วยให้พนักงานเข้าใจว่าระบบใหม่นี้ช่วยให้งานของพวกเขาง่ายยิ่งขึ้นอย่างไร

ตัวอย่างระบบ CRM ในโลกแห่งความเป็นจริง

องค์กรทุกประเภทสามารถนำระบบ CRM มาใช้และได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจได้ ตัวอย่างบางส่วนของเรื่องราวความสำเร็จในโลกแห่งความจริงมีดังนี้:
 
  • บริษัทผู้ผลิตสัญชาติอิตาลีต้องการจัดการโอกาสการขายให้ดียิ่งขึ้นและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ระบบ CRM ใหม่ที่ยืดหยุ่น ซึ่งช่วยปรับปรุงการมองเห็นและการคาดการณ์ยอดขาย ช่วยให้ผู้ผลิตรายนี้สามารถติดตามโอกาสการขายได้อย่างใกล้ชิด เข้าใจผู้ที่มีแนวโน้มกลายเป็นลูกค้าและลูกค้าเก่าได้ดียิ่งขึ้น และระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์ใดที่สร้างมูลค่าสูงสุดได้
    ประเด็นสำคัญ: ข้อมูลเชิงลึกด้านการขายช่วยกระตุ้นความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าได้ 
     
  • ผู้ให้บริการทันตกรรมในสเปนวางแผนที่จะขยายเครือข่ายคลินิกไปยังภูมิภาคใหม่ โดยได้เลือกใช้ระบบ CRM ที่ครอบคลุม ซึ่งสามารถปรับขนาดได้ มีประสิทธิภาพ และให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นต่อการสื่อสารกับผู้ป่วยคลินิกได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะดำเนินการอยู่ที่ใด และดำเนินแคมเปญการตลาดแบบกำหนดเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้ป่วยรายใหม่ๆ ได้
    ประเด็นสำคัญ: ระบบ CRM ที่คล่องตัวซึ่งปรับเข้ากับความต้องการของประเทศ ภาษา และวัฒนธรรมต่างๆ ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้
     
  • องค์กรการศึกษาในแอฟริกาใต้ตัดสินใจที่จะรวมสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั้งสี่แห่งเข้าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งเดียว ในเวลาเพียง 12 สัปดาห์ ก็สามารถรวมระบบและกระบวนการที่แตกต่างกันของสถาบันทั้งสี่ไว้บนแพลตฟอร์ม CRM แบบรวมที่ให้การสนับสนุนตลอดเส้นทางของนักศึกษา พร้อมทั้งลดความซับซ้อนในการดำเนินงานและปรับค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมอีกด้วย
    ประเด็นสำคัญ: หากมีการวางแผนอย่างรอบคอบและระบบที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถปรับใช้ CRM ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ระบบ CRM เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับระบบ CRM และสิ่งที่ระบบ CRM ทำได้นั้นปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ๆ บ่งชี้ว่าระบบ CRM จะยังคงพัฒนาต่อไปพร้อมกับเทคโนโลยีต่อไปนี้:
 
  • AI และการเรียนรู้ของเครื่อง: ระบบ CRM จะได้รับการพัฒนาโดยเครื่องมือวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนโดย AI มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและคาดการณ์ข้อมูลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
     
  • ระบบอัตโนมัติขั้นสูง: องค์กรต่างๆ จะต้องดำเนินการปรับปรุงการดำเนินงานต่อไปโดยปรับงานประจำให้ง่ายยิ่งขึ้นโดยใช้เวิร์กโฟลว์ระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้พนักงานมีเวลาให้ความสำคัญกับการดำเนินการที่ต้องใช้กลยุทธ์มากกว่า
     
  • อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง: ระบบ CRM จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และใช้ข้อมูลเพื่อช่วยมอบการโต้ตอบกับลูกค้าเชิงรุกที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
     
  • ความเป็นจริงเสริม: องค์กรจะใช้เครื่องมือ AR ที่มีอยู่ในระบบ CRM เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมจริง เช่น การสาธิตผลิตภัณฑ์เสมือนสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อผลิตภัณฑ์/บริการ และการจำลองการโต้ตอบกับลูกค้าสำหรับทีมสนับสนุนในการฝึกอบรม
     
  • CRM สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่: ความนิยมและความพร้อมใช้งานของแอป CRM ที่สร้างขึ้นมาสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะเพิ่มขึ้นต่อไป เนื่องจากพนักงานจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลและบัญชีของลูกค้าและทำงานนอกสำนักงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ชายกำลังยิ้ม

เริ่มต้นใช้งานระบบ CRM

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธียกระดับความสัมพันธ์กับลูกค้าและผลักดันยอดขายและประสิทธิภาพด้วย Dynamics 365 ซึ่งเป็นระบบ CRM ที่ขับเคลื่อนโดย AI สำหรับยุคดิจิทัล

คำถามที่ถามบ่อย

  • ระบบ CRM ตัวอย่าง ได้แก่ Microsoft Dynamics 365 แพลตฟอร์ม CRM รวมที่ขับเคลื่อนโดย AI ซึ่งประกอบไปด้วยการจัดการการติดต่อ การขายอัตโนมัติ การตลาดอัตโนมัติ การให้บริการและการสนับสนุนลูกค้า และการวิเคราะห์และการรายงาน
  • ระบบ CRM แบ่งออกเป็นสามประเภทหลักๆ ระบบ CRM เชิงปฏิบัติการมุ่งเน้นไปที่กระบวนการอัตโนมัติและปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง ระบบ CRM เชิงวิเคราะห์ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม ความต้องการ และรูปแบบการซื้อของลูกค้า ระบบ CRM เชิงทำงานร่วมกันช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารและการแชร์ข้อมูลในแผนกต่างๆ
  • CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management (ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์) ซึ่งหมายถึงกลยุทธ์ โซลูชันซอฟต์แวร์ และกระบวนการที่องค์กรใช้ในการจัดการและเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึงปรับการขาย การตลาด และการบริการให้เหมาะสมด้วย
  • ระบบ CRM คือโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุม ซึ่งทำหน้าที่เป็นฮับส่วนกลางสำหรับการจัดเก็บ การจัดระเบียบ และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ซึ่งทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ โดยอัตโนมัติ สร้างข้อมูลกลยุทธ์เชิงลึก และอำนวยความสะดวกในการแชร์ข้อมูลและการทำงานร่วมกันในทีม และช่วยเพิ่มกำไรและขับเคลื่อนการเติบโตได้ในที่สุด
  • ระบบ CRM ช่วยให้องค์กรสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า เพิ่มยอดขายและรายได้ ยกระดับการบริการลูกค้า และมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกที่สร้างโดย AI

ติดตาม Dynamics 365