This is the Trace Id: 7a9eddfabc4a6cb7827668053756f941
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
Power Platform
MICROSOFT POWER PLATFORM

แอป AI พลิกโฉมการดำเนินธุรกิจและขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างไร

ค้นพบว่าธุรกิจใช้แอป AI และเครื่องมืออัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงการตัดสินใจ และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้เร็วขึ้นได้อย่างไร

แอป AI คืออะไร

แอป AI คือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อมอบโซลูชันอัจฉริยะ และพลิกโฉมวิธีการดำเนินธุรกิจได้มากกว่าซอฟต์แวร์แบบเดิมๆ แอปที่ขับเคลื่อนโดย AI มีเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และการวิเคราะห์เชิงทำนายเพื่อเรียนรู้ ปรับตัว และทำการตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูล ซึ่งต่างจากแอปพลิเคชันมาตรฐานที่ทำตามกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ความสามารถเหล่านี้มอบระบบอัตโนมัติที่ดียิ่งขึ้น ข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดยิ่งขึ้น และประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ที่เป็นแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้นในทุกอุตสาหกรรม

ประเด็นสำคัญ

แอป AI เพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงการตัดสินใจ

ธุรกิจใช้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนโดย AI ในการดำเนินงานโดยอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูล และปรับปรุงการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า

การปรับให้เป็นแบบเฉพาะบุคคลและระบบอัตโนมัติช่วยยกระดับประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้

ความสามารถที่ขับเคลื่อนโดย AI เช่น แชทบอท การวิเคราะห์เชิงทำนาย และคำแนะนำอัจฉริยะสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ปรับตัวได้และใช้งานง่ายขึ้นได้

การนำ AI มาใช้ในเชิงกลยุทธ์มีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ

บริษัทที่ใช้ซอฟต์แวร์ AI โดยมีเป้าหมายชัดเจนจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ลดต้นทุน และมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน

ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนโดย AI สนับสนุนการตัดสินใจที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ธุรกิจสามารถตรวจหาแนวโน้ม คาดการณ์ผลลัพธ์ และตอบสนองต่อความท้าทายได้เร็วขึ้นโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลที่มี AI ช่วยเหลือ

โซลูชัน AI แบบปรับขนาดได้ช่วยให้ธุรกิจคงความคล่องตัวเอาไว้ได้

เครื่องมือ AI บนระบบ Cloud ช่วยให้บริษัทขยายขีดความสามารถได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่

ประโยชน์ของแอป AI

เหตุใดธุรกิจต่างๆ ถึงเปิดรับ AI

โซลูชันที่ขับเคลื่อนโดย AI มากมายส่งผลกระทบต่อองค์กรทั่วโลกอยู่แล้วในปัจจุบัน ผู้ช่วยเสมือนเข้าใจภาษาธรรมชาติ ระบบเชิงทำนายคาดการณ์แนวโน้มของคลาด และเครื่องมืออัจฉริยะปรับกระบวนการในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน การค้าปลีก และการผลิต ให้เหมาะสม

เมื่อนำเครื่องมือและเทคโนโลยี AI มาใช้ในการดำเนินงาน คุณจะมีข้อได้เปรียบที่ส่งผลกระทบต่อรายได้สุทธิและตำแหน่งในการแข่งขันของคุณโดยตรง มาสำรวจประโยชน์สำคัญบางประการของแอป AI กัน

ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ที่ได้รับการปรับปรุง

แอป AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรม ความชอบ และข้อมูลในอดีตของผู้ใช้เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลสำหรับทุกคน ตัวอย่างเช่น Microsoft Xbox ใช้อัลกอริทึม AI ที่ซับซ้อนเพื่อแนะนำเนื้อหาโดยอิงจากประวัติการเรียกดูและการเล่นเกม ช่วยประหยัดเวลาของผู้ใช้ในขณะที่เพิ่มการมีส่วนร่วมและความพึงพอใจ

เพิ่มความมีประสิทธิภาพการทำงาน

AI ดำเนินงานที่ต้องทำซ้ำๆ โดยอัตโนมัติ ทำให้พนักงานโฟกัสกับงานที่มีมูลค่าสูงกว่าได้ บริษัทอาจใช้กระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (RPA) เพื่อทำให้เวิร์กโฟลว์ต่างๆ ง่ายขึ้น เช่น การประมวลผลใบแจ้งหนี้และการโต้ตอบผ่านบริการลูกค้า การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ในการผลิตช่วยลดเวลาหยุดทำงานโดยการคาดการณ์ความล้มเหลวของอุปกรณ์ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง เมื่อใช้ตัวสร้างแอปที่ขับเคลื่อนโดย AI ธุรกิจจะสามารถเร่งการพัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติแบบกำหนดเองได้

การตัดสินใจที่ดีขึ้น

แอป AI วิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ในขนาดและความเร็วที่เหนือความสามารถของมนุษย์ โดยระบุแนวโน้มและรูปแบบที่อาจมองข้ามไป ธุรกิจสามารถใช้การวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด เสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน และยกระดับการคาดการณ์ทางการเงิน แดชบอร์ดข้อมูลในเวลาจริงช่วยให้การตัดสินใจรวดเร็วและมีข้อมูลมากขึ้น

การประหยัดต้นทุน

แอป AI ช่วยลดต้นทุนและสนับสนุนเวิร์กโฟลว์ที่แม่นยำและง่ายขึ้นด้วยการดำเนินงานโดยอัตโนมัติและลดความไร้ประสิทธิภาพ เครื่องมือทางการเงินที่ใช้ AI สามารถปรับปรุงความแม่นยำในการทำบัญชี ในขณะที่บอทบริการลูกค้าช่วยเหลือทีมโดยการจัดการกับการสอบถามประจำวัน ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับการโต้ตอบที่ซับซ้อนกว่าได้

ความสามารถในการปรับขนาดและการเติบโต

แอป AI ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปรับขนาดได้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการปริมาณงานที่มากขึ้นได้โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โซลูชัน AI ในการประมวลผลแบบคลาวด์จัดสรรทรัพยากรแบบไดนามิกตามความต้องการ ช่วยให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพที่ราบรื่น

ฟีเจอร์หลักของแอป AI

แอป AI ทำงานฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร

สิ่งที่ทำให้แอปเป็นแอปที่ดี ซอฟต์แวร์ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมีความสามารถมากมายในการสร้างโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับความต้องการทางธุรกิจที่ซับซ้อน ต่อไปนี้คือฟีเจอร์หลักบางส่วนที่ทำให้แอป AI เป็นส่วนสำคัญในภูมิทัศน์ทางธุรกิจของยุคปัจจุบัน

อัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องวางรากฐานของแอป AI ส่วนใหญ่ เพื่อช่วยให้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมที่ชัดเจน อัลกอริทึมเหล่านี้จะระบุรูปแบบในข้อมูลและปรับการดำเนินงานตามข้อมูลใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น แอปการรักษาความปลอดภัยทางอีเมลใช้การเรียนรู้ของเครื่องเพื่อปรับปรุงความสามารถในการตรวจหาการพยายามฟิชชิ่งอย่างต่อเนื่องโดยการวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีใหม่ๆ

การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ช่วยให้แอป AI เข้าใจและตอบสนองต่อภาษามนุษย์ที่ซับซ้อนได้ ฟีเจอร์นี้เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือ AI ต่างๆ เช่น ผู้ช่วยที่สั่งการด้วยเสียงและแพลตฟอร์มการวิเคราะห์เนื้อหาที่สามารถสรุปเอกสารหรือแยกข้อมูลสำคัญจากข้อความที่ไม่มีโครงสร้างได้

คอมพิวเตอร์วิทัศน์ช่วยให้แอป AI สามารถตีความและเข้าใจข้อมูลภาพจากโลกจริงได้ แอปการค้าปลีกที่มีคอมพิวเตอร์วิทัศน์สามารถวิเคราะห์เค้าโครงร้านค้าเพื่อการจัดวางผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด ในขณะนี้ระบบควบคุมคุณภาพการผลิตสามารถระบุความบกพร่องที่ดวงตาของมนุษย์ไม่สามารถตรวจพบได้

ความสามารถด้านการวิเคราะห์เชิงทำนายช่วยให้แอป AI คาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตโดยอิงจากข้อมูลในอดีต เครื่องมือข่าวกรองธุรกิจที่มีฟีเจอร์เชิงคาดการณ์ที่มีประสิทธิภาพสามารถคาดการณ์แนวโน้มยอดขาย ระบุอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน หรือคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ก่อนที่จะปรากฏอย่างชัดเจนในการวิเคราะห์ทั่วไป

ส่วนติดต่อแบบปรับเปลี่ยนได้ที่ปรับตามพฤติกรรมของผู้ใช้จะแสดงฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อื่นๆ แอป AI สามารถปรับเปลี่ยนส่วนติดต่อตามการโต้ตอบกับผู้ใช้ เพื่อเน้นไปที่ฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยและทำให้เวิร์กโฟลว์สำหรับความต้องการเฉพาะบุคคลง่ายขึ้น

การตรวจหาสิ่งผิดปกติช่วยระบุรูปแบบที่ผิดปกติ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงโอกาสหรือปัญหา แอปความปลอดภัยทางการเงินใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อตั้งค่าสถานะธุรกรรมที่อาจเป็นการฉ้อโกง ในขณะที่เครื่องมือตรวจสอบระบบสามารถระบุปัญหาด้านประสิทธิภาพก่อนที่จะก่อให้เกิดการหยุดทำงานได้

ความสามารถในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องช่วยรับรองว่าแอป AI จะพัฒนาอยู่เสมอผ่านการเรียนรู้ข้อมูลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซอฟต์แวร์ดั้งเดิมต้องมีการอัปเดตด้วยตนเองเพื่ออัปเกรดฟังก์ชันการทำงาน ในขณะที่แอป AI ที่มีฟีเจอร์การเรียนรู้ที่มีเสถียรภาพจะมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปรับปรุงความสามารถอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์การผสานรวม AI

เลือกกลยุทธ์ AI ที่เหมาะสำหรับแอปของคุณ

การรวม AI เข้ากับแอปพลิเคชันที่คุณมีอยู่ที่สำเร็จจำเป็นต้องมีการวางแผนและการนำไปใช้อย่างรอบคอบ โซลูชันที่ขับเคลื่อนโดย AI ต่างจากการพัฒนาแอปแบบเดิมที่ใช้กฎตายตัวตรงที่สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงกว่ามาก เมื่อ AI ในการพัฒนาแอปยังคงก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจจะมีตัวเลือกสำหรับการฝังความสามารถอัจฉริยะมากขึ้น

กลยุทธ์การผสานรวม AI ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะทาง ทรัพยากรทางเทคนิค และเป้าหมายระยะยาว ต่อไปนี้คือวิธีการบางส่วนที่ควรพิจารณา:

1. บริการ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้า

วิธีการนี้มีเส้นทางการนำไปใช้ที่เร็วที่สุด และต้องใช้การพัฒนาน้อยที่สุด แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ต่างๆ เช่น Microsoft Azure มีบริการ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้าซึ่งนักพัฒนาสามารถรวมเข้ากับแอปพลิเคชันที่มีอยู่แล้วได้ เพื่อให้ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การเรียนรู้ของเครื่อง การรู้จำเสียง และระบบอัตโนมัติ ได้โดยไม่ต้องสร้างโมเดลใหม่ตั้งแต่ต้น

2. โมเดล AI แบบกำหนดเอง

เมื่อบริการที่สร้างไว้ล่วงหน้าไม่ตอบสนองความต้องการเฉพาะทางของคุณ การพัฒนาโมเดลแบบกำหนดเองจะมอบความแม่นยำที่สูงกว่าและความโดดเด่นในการแข่งขันได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญมากขึ้น แต่โมเดลแบบกำหนดเองสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณและแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมหรือองค์กรของคุณได้โดยเฉพาะ เมื่อมีเครื่องมืออย่างเช่น Microsoft Power Apps ธุรกิจสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนโดย AI ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดจำนวนมาก โมเดลเหล่านี้ใช้งานได้ในสถาปัตยกรรมแอปพลิเคชันที่คุณมีอยู่แล้ว แต่มีฟังก์ชันเฉพาะทางเพิ่มเติมเข้ามา

3. API ด้าน AI ของบริษัทอื่น

การเชื่อมต่อแอปพลิเคชันของคุณเข้ากับเครื่องมือ AI เฉพาะทางผ่าน API ที่เป็นมาตรฐานจะสร้างสมดุลของการปรับแต่งและความเร็วในการพัฒนา Azure มี API ด้าน AI มากมาย เช่น Azure AI Vision สำหรับการรูปจำภาพและ Azure AI Speech สำหรับส่วนติดต่อการสนทนา API เหล่านี้มักจะใช้โมเดลราคาแบบสมัครใช้งาน ทำให้ธุรกิจนำฟีเจอร์ AI ขั้นสูงไปใช้ได้โดยมีการลงทุนล่วงหน้าต่ำที่สุด

เมื่อทำกลยุทธ์การผสานรวม AI ไปใช้ ให้พิจารณาแนวทางปฏิบัติเหล่านี้:

  • เริ่มต้นด้วยปัญหาที่ระบุอย่างชัดเจน แทนการนำ AI ไปใช้เพราะประโยชน์ของ AI เพียงอย่างเดียว การผสานรวมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดจะจัดการความท้าทายทางธุรกิจเฉพาะด้วยผลลัพธ์ที่วัดผลได้ ระบุลักษณะของความสำเร็จก่อนเลือกวิธีการของคุณ

  • ตรวจสอบคุณภาพข้อมูลและการช่วยสำหรับการเข้าถึง เนื่องจากโซลูชัน AI จะมีประสิทธิภาพตามข้อมูลที่ใช้ สร้างไปป์ไลน์ข้อมูลที่สอดคล้องกันซึ่งให้ข้อมูลที่เป็นระเบียบและเกี่ยวข้องกับส่วนประกอบ AI ของคุณ คุณภาพข้อมูลต่ำเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในโครงการ AI

  • วางแผนสำหรับการปรับขนาดตั้งแต่เริ่มต้น AI ควรฝังลงในเวิร์กโฟลว์ของคุณในลักษณะที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการออกแบบใหม่ทั้งหมด โซลูชันบนระบบ Cloud มักจะมีตัวเลือกการปรับขนาดที่ยืดหยุ่นกว่าเมื่อมีความต้องการสูงขึ้น

  • จัดการกับความท้าทายทางเทคนิคในเชิงรุก รวมถึงความเข้ากันกับระบบดั้งเดิม ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย และความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ สร้างแผนการทำงานการนำไปใช้ทางเทคนิคที่คำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ก่อนที่จะเริ่ม การพัฒนาแอป

ปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ด้วยแอป AI

สร้างการมีปฏิสัมพันธ์ที่ราบรื่น

แอป AI ได้ปฏิวัติวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับเทคโนโลยีด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ใช้งานง่าย ตอบสนองได้ และปรับแต่งเฉพาะบุคคลมากขึ้น เมื่อรวม AI เข้ากับกลยุทธ์ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ คุณจะสามารถเพิ่มความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้อย่างมาก พิจารณาความสามารถที่ขับเคลื่อนโดย AI เหล่านี้:

ส่วนติดต่อการสนทนา แชทบอทและผู้ช่วยเสมือนใช้AI การสนทนาเพื่อให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ ทำให้แอปใช้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องมีเมนูหรือคำสั่งที่ซับซ้อน

เนื้อหาและคำแนะนำเฉพาะบุคคล
แอปสามารถให้คำแนะนำเฉพาะที่เพิ่มการมีส่วนร่วมและลดการค้นหาด้วยตนเองได้ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้

ข้อความเชิงคาดการณ์และคำแนะนำในการป้อนข้อมูล
ฟีเจอร์การพิมพ์อัจฉริยะจะคาดเดาจุดประสงค์ของผู้ใช้ เพื่อเร่งความเร็วในการสื่อสารและลดการทำงานลง

การรับรู้ทางอารมณ์และการวิเคราะห์ความคิดเห็น
การเข้าใจโทนเสียงและความคิดเห็นในข้อความหรือคำพูดช่วยให้แอปตอบสนองได้อย่างมีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นและเพิ่มคุณภาพการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้

ขยายการช่วยสำหรับการเข้าถึง
ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแปลงคำพูดเป็นข้อความและการรู้จำภาพ ช่วยให้แอปพลิเคชันมีความครอบคลุมมากขึ้นสำหรับผู้คนที่ความสามารถหลากหลาย

ความช่วยเหลือเชิงรุก
ตัวเตือนอัจฉริยะ การดำเนินการที่แนะนำ และการจัดกำหนดการอัตโนมัติช่วยลดภาระในการรับข้อมูลและช่วยให้ผู้ใช้เป็นระเบียบอยู่เสมอได้

AI สำหรับการตัดสินใจที่อิงตามข้อมูล

ตัดสินใจได้ชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วย AI

แอป AI เปลี่ยนข้อมูลปริมาณมหาศาลให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่ดำเนินการได้ ทำให้การตัดสินใจรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น แทนที่จะต้องใช้ความรู้หรือการสุ่มตัวอย่างที่จำกัด องค์กรสามารถเลือกทางเลือกที่มีข้อมูลรองรับได้อย่างมั่นใจ

เมื่อใช้ประโยชน์ของ AI ธุรกิจสามารถ:

  • ระบุรูปแบบเพื่อเปิดเผยแนวโน้มที่ซ่อนอยู่ในชุดข้อมูลที่ซับซ้อนเพื่อจัดการสินค้าคงคลัง ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
     
  • ตรวจหาสิ่งผิดปกติเพื่อระบุรูปแบบที่ผิดปกติเพื่อป้องกัรการฉ้อโกง คาดการณ์ความต้องการด้านการบำรุงรักษา และแก้ไขปัญหาในเชิงรุก
     
  • จำลองสถานการณ์เพื่อทดสอบกลยุทธ์ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ลดความเสี่ยง และปรับปรุงการตัดสินใจทางการเงิน การดำเนินงาน และการวางแผน
     
  • วิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นข้อความโดยใช้ NLP ในการแยกข้อมูลเชิงลึกจากคำติชมของลูกค้า รีวิว และโซเชียลมีเดีย ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ

เมื่อใช้ AI เพื่อการสนับสนุนการตัดสินใจ องค์กรต้องให้ความสำคัญกับ:

  • ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล—ใช้นโยบายการกำกับดูแล การไม่ระบุตัวตนในข้อมูล และการควบคุมการเข้าถึงเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
     
  • การพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม—ตรวจสอบระบบ AI เป็นประจำเพื่อป้องกันการใช้อคติและรับรองการตัดสินใจที่เป็นธรรม
     
  • ความโปร่งใส—ออกแบบโมเดล AI ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ชัดเจนและอธิบายได้เพื่อเพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้อง

เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานจนถึงขีดสุดด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดย AI

ปรับปรุงการดำเนินงานและเวิร์กโฟลว์ให้เหมาะสม

แอป AI เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้วยการดำเนินงานโดยอัตโนมัติและทำให้กระบวนการที่ซับซ้อนง่ายขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพียงการประหยัดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นการพลิกโฉมเวิร์กโฟลว์ทั่วทั้งองค์กรโดยพื้นฐาน

ต่อไปนี้คือวิธีการบางส่วนที่แอป AI สามารถปรับการดำเนินงานให้เหมาะสมได้:

  • RPA ที่ขับเคลื่อนโดย AI จะดำเนินงานประจำวันตามกฎโดยอัตโนมัติ โดยมีความยืดหยุ่นสูงกว่าระบบอัตโนมัติแบบเดิมๆ
     
  • การประมวลผลเอกสารแบบอัจฉริยะจะแยกและจัดระเบียบข้อมูลจากแหล่งที่มาที่ไม่มีโครงสร้างต่างๆ เช่น ใบแจ้งหนี้ สัญญา และแบบฟอร์ม
     
  • การเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานที่ใช้ AI ทำให้ระบบโลจิสติกส์ง่ายขึ้นโดยการวิเคราะห์รูปแบบความต้องการ ต้นทุนการขนส่ง และระดับสินค้าคงคลัง
     
  • เครื่องมือการจัดตารางเวลาของพนักงานใช้ AI เพื่อจัดสรรบุคลากรตามความต้องการที่คาดการณ์ไว้ ทักษะ และความต้องการทางธุรกิจ

ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยการผสานรวม AI

โซลูชันที่ขับเคลื่อนโดย AI สำหรับอนาคต

AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างสรรค์นวัตกรรมของธุรกิจ ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ชาญฉลาดมากขึ้น บริการเฉพาะบุคคล และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไป เมื่อเทคโนโลยี AI ก้าวหน้าขึ้น องค์กรจะไม่มีข้อจำกัดด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิคอีกต่อไป แพลตฟอร์มการพัฒนาแบบ Low-Code และ No-Code ทำให้การนำโซลูชันที่ใช้ AI มาใช้ง่ายกว่าที่เคย โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน

การเปลี่ยนแปลงนี้กำลังเร่งนวัตกรรมในการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ พร้อมกับสร้างโอกาสทางรายได้ใหม่ๆ และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บริษัทที่ใช้ AI ไม่เพียงสามารถปรับเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ แต่ยังทำให้ตนเองอยู่ในแนวหน้าของอุตสาหกรรมอีกด้วย การให้ความสำคัญกับนวัตกรรมช่วยให้องค์กรมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนในตลาดที่ขับเคลื่อนโดย AI มากขึ้นเรื่อยๆ

กรณีการใช้งานแอป AI ในโลกจริง

การดูแลสุขภาพ: การวินิจฉัยที่มี AI ช่วยเหลือ

AI สามารถวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์เพื่อช่วยตรวจหาโรคล่วงหน้า เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์การรักษาผู้ป่วย โรงพยายามยังใช้ AI เพื่อดำเนินงานจัดการดูแลโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้ต้นทุนและเวลารอลดลง

การค้าปลีก: ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เป็นส่วนตัว

แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมักจะใช้ AI เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ตามพฤติกรรมการเรียกดู ซึ่งเพิ่มการมีส่วนร่วมและอัตราการแปลง

การเงิน: การตรวจหาการฉ้อโกงและการจัดการความเสี่ยง

การตรวจหาการฉ้อโกงที่ขับเคลื่อนโดย AI จะระบุธุรกรรมที่น่าสงสัยในเวลาจริง เพื่อช่วยปกป้องธุรกิจและลูกค้าจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัย

การผลิต: การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์

แอป AI จะตรวจสอบสถานภาพอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น และลดเวลาหยุดทำงานที่ไม่คาดคิดซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

ทำให้แอป AI ทำงานให้คุณ

ขั้นตอนถัดไปในการเดินทาง AI ของคุณ

AI เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของนวัตกรรมทางธุรกิจ ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น และการตัดสินใจที่ดีขึ้น เมื่อมีความสามารถต่างๆ เช่น ระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลในเวลาจริง และประสบการณ์เฉพาะบุคคล ทำให้ซอฟต์แวร์ AI พลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรมได้ การนำ AI ไปใช้ในเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงการดำเนินงาน เพิ่มความสามารถในการทำกำไร และเปิดเผยโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต

ตอนนี้ถึงเวลาที่จะสำรวจว่าแอป AI สามารถมอบประโยชน์ให้กับองค์กรของคุณอย่างไร ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการเลือกเครื่องมือ AI ที่เหมาะสม การผสานรวมอย่างรอบคอบ และการปรับปรุงการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยบริการ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้า พัฒนาโมเดลแบบกำหนดเอง หรือเชื่อมต่อกับ API ด้าน AI ของบริษัทก็ตาม การดำเนินขั้นตอนถัดไปในการเดินทาง AI ของคุณก็สามารถช่วยให้คุณบรรลุศักยภาพที่ยังไม่เคยใช้ประโยชน์ได้
โซลูชัน

เร่งนวัตกรรมด้วยแอป AI

ลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนาด้วยเครื่องมือแบบ Low-Code และบริการแอปที่มีการจัดการเต็มรูปแบบ
Microsoft Power Platform

สร้างแอปและเวิร์กโฟลว์

เพิ่มศักยภาพให้กับทุกคนในองค์กรของคุณในการพัฒนาโซลูชันด้วยเครื่องมือแบบ Low-Code
ผู้ชายกำลังหลับตาขณะถือถ้วย
Microsoft Power Apps

สร้างโซลูชันระดับมืออาชีพ

ส่งมอบแอปที่ฝังตัวด้วย AI เพื่อปรับแอปพลิเคชันและระบบแบบดั้งเดิมของคุณให้ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว
ผู้ชายกำลังถือกล่องสีขาว
Azure App Service

สร้างเว็บแอปที่พร้อมสำหรับ AI ในคลาวด์

สร้าง ปรับใช้ และปรับขนาดเว็บแอปและ API ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วด้วย Platform as a Service (PaaS) ที่มีการจัดการเต็มรูปแบบ

คำถามที่ถามบ่อย

  • ได้ AI สามารถรวมกับการพัฒนาแอปโดยใช้บริการ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้า โมเดล AI แบบกำหนดเอง หรือ API ด้าน AI ของบริษัทอื่น เครื่องมือแบบ Low-Code เช่น Microsoft Power Platform ยังทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างแอปที่ขับเคลื่อนโดย AI ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคขั้นสูง
  • AI เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแอปโดยช่วยให้มีระบบอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลในเวลาจริง การวิเคราะห์เชิงทำนาย การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และประสบการณ์เฉพาะบุคคล กรณีการใช้งานทั่วไป ได้แก่ แชทบอท โปรแกรมให้คำแนะนำ การตรวจหาการฉ้อโกง และระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ
  • ต้นทุนจะแตกต่างกันไปตามความซับซ้อน ความสามารถของ AI และวิธีการพัฒนา การใช้บริการหรือ API ด้าน AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้าสามารถลดต้นทุน ในขณะที่การสร้างโมเดล AI แบบกำหนดเองจำเป็นต้องมีการลงทุนมากขึ้นกับการพัฒนาและการประมวลผลข้อมูล
  • AI สามารถรวมเข้ากับแอปผ่านบริการ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้า โมเดล AI แบบกำหนดเอง และ API ของบริษัทอื่น แนวทางปฏิบัติจะขึ้นอยู่กับความต้องการทางธุรกิจ ทรัพยากรทางเทคนิค และความต้องการด้านการปรับขนาด การรับรองข้อมูลคุณภาพสูงและกลยุทธ์ AI ที่ชัดเจนคือกุญแจสำคัญสู่การผสานรวมที่สำเร็จ
  • ได้ AI สามารถรวมเข้ากับแอปที่มีอยู่ผ่าน API บริการ AI บนระบบ Cloud หรือโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องแบบฝัง การเลือกกลยุทธ์การผสานรวม AI ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรมของแอปและฟีเจอร์ AI เฉพาะที่คุณต้องการใช้

ติดตาม Power Platform